เด็กผู้ชายส่วนใหญ่คงเติบโตมาด้วยของเล่นหุ่นยนต์อย่างน้อยหนึ่งตัวหรือมากกว่านั้น จากจินตนาการในวัยเยาว์หุ่นยนต์เหล่านี้มีหน้าที่เป็นมิตรแท้ เป็นผู้คอยปกป้องปราบปรามศัตรูร้าย หรือเพื่อนที่นอนในอ้อมแขนยามเราหลับไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน ภาพจำเหล่านี้ยังคงมีพลังบวกและสามารถสร้างรอยยิ้มให้เราได้ทุกครั้งยามนึกถึง
ตั้งแต่อดีตนาฬิกาส่วนใหญ่ถูกออกแบบในแนวทางอนุรักษ์นิยม ด้วยรูปลักษณ์ในแบบฉบับที่ค่อนข้างจำเจ และน่าเบื่อไปหน่อย(สำหรับบางคน) ด้วยหัวคิดที่ขบถและความหลงใหลส่วนตัว Azimuth เลือกที่จะนำภาพจำในอดีตมาถ่ายทอดและส่งต่อผ่านทางนาฬิกาข้อมือ และประถมบทของความคิดนี้ก็ถูกประเดิมด้วย Azimth Mr.Roboto R1 ในปีค.ศ. 2008 ที่สวนกระแสตลาดอย่างคาดไม่ถึง เปลี่ยนแปลงความหรูหราที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือบ่งบอกฐานะทางสังคม ให้กลายเป็นความสุขในอดีตที่อยู่บนข้อมือ ทำให้นาฬิกาใบหน้าหุ่นยนต์เรือนนี้เป็นกระแสและได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีมาตลอดแปดปีจนมาถึงเวอร์ชั่นถัดไป Azimuth Mr.Roboto R2 ที่แฟนซีมากขึ้น ขนาดใหญ่ขึ้น ฝาหลังแซฟไฟร์โชว์กลไก เพิ่มรายละเอียดอีกหลายอย่างเรียกได้ว่าฟูลออพชั่น แต่ความแฟนซีและฟูลออบชั่นแบบนี้ใช่ว่าจะเป็นที่รักของทุกคน แฟนบอยและนักสะสมมากมายกลับถวิลหาความเรียบง่ายแต่มีอะไรซ่อนอยู่แบบ Mr.Roboto R1 จนทำให้เกิดการแสวงหามากมายจนทำให้ราคาในตลาดมือสองขยับขึ้นไป 2-3 เท่า จากราคาเดิม ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่ได้พบเจอบ่อยๆกับแบรนด์ indie และ newbie แบบนี้ ด้วยการตอบรับและการเรียกร้องจากลูกค้าที่อยากได้รุ่นพิเศษบ้าง Azimuth จึงตัดสินใจเข็น Mr. Roboto Bronzo ออกมา สิ่งที่พิเศษคือการนำ Bronze คุณภาพสูงจาก Germany มาใช้เป็นวัสดุตัวเรือน และผลิตจำนวนจำกัดเพียง 100 เรือนทั่วโลก แน่นอนครับหมดเกลี้ยงภายในพริบตาไม่ให้เสียชื่อแบรนด์แต่อย่างใด และในปีนี้ Mr. Roboto Bronzo กลับมาอีกครั้งด้วย Mr. Roboto Bronzo Artist Series นาฬิกาหุ่นกระป๋องที่เซ็กซี่และพิเศษกว่าเดิม Azimuth ตั้งใจสร้างความพิเศษด้วยการแกะสลักตัวเรือน Bronze ด้วยมือ ต้องพึ่งพาฝีมือการแกะสลักระดับปรมาจารย์และใช้เวลาแกะสลักถึง 3 เดือน เป็นอย่างน้อยจึงจะได้ผลงานที่มีรายละเอียดที่ซับซ้อนระดับนี้เพื่องานศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะลวดลายของโลก Cryptocurrency ที่ถูกแกะสลักลงไปในแต่ละเรือนนั้นไม่เหมือนกันเลย Mr. Roboto Bronzo Artist Series ถูกสร้างสรรค์ขึ้นบนพื้นฐานของความไม่เหมือนใคร นี่คือความเป็น Unique Piece อย่างแท้จริง ทำให้แต่ละเรือนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สะท้อนถึงบุคลิกผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี แต่ใครอยากครอบครองความพิเศษแบบนี้ก็ต้องรีบหน่อยนะครับเพราะมีจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือนทั่วโลกเท่านั้น
ตลอด 13 ปีที่ Mr.Roboto ได้กำเนิดขึ้นและอยู่เคียงคู่แบรนด์จนกลายเป็นไอคอน และ DNA ของแบรนด์ไปแล้วอย่างแยบยล ณ จุดเริ่มต้น Azimuth เองนั้นก็ไม่คาดคิดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีขนาดนี้ เพียงแค่อยากถ่ายทอดความรักความชื่นชอบให้กับผู้ที่รักและชอบในสิ่งเดียวกัน และก็ไม่รู้ด้วยว่า Mr.Roboto จะมีภาคต่อไหมหรือหุ่นยนต์ตัวนี้ได้มาถึงวาระต้องปลดประจำการแล้ว แต่ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรสิ่งที่แน่นอนเลยคือราคาพุ่งแน่ๆครับ
Comments